ปวดท้องประจำเดือน รับมืออย่างไรดี

ปวดท้องประจำเดือน รับมืออย่างไรดี

            “ปวดท้องประจำเดือน” ปัญหาใหญ่ของผู้หญิงหลายๆคน เพราะนอกจากเรื่องของสิว ฝ้า และการเกิดริ้วรอยหมองคล้ำที่ทำให้ดูแก่ก่อนวัย จะเป็นปัญหาทำให้ผู้หญิงรู้สึกวิตกกังวลใจ แล้ว อาการปวดท้องประจำเดือน ก็คือความทุกข์ทรมานทางร่างกาย วันนี้เราจะมาหาสาเหตุและเรียนรู้วิธีรับมือกับอาการปวดท้องประจำเดือน กันค่ะ

อาการและสาเหตุการปวดประจำเดือน

            การปวดบริเวณท้องน้อยในช่วงก่อนหรือกำลังมีรอบเดือน จะมีลักษณะอาการปวดตุบๆหรือปวดบีบๆ ซึ่งอาการปวดท้องประจำเดือนจะมีความรุนแรงแตกต่างกัน ผู้หญิงบางคนมีอาการปวดรุนแรง และรู้สึกทรมานจนไม่สามารถทำงานได้  โดยอาการปวดจะเกิดขึ้น 2-3 วันแล้วหายได้เอง อาการปวดประจำเดือนแบ่งออกเป็น 2 ประเภท ได้แก่

1.การปวดประจำเดือนชนิดปฐมภูมิ

            เป็นอาการปวดประจำเดือน เมื่อเริ่มเป็นรอบเดือนครั้งแรกได้ประมาณ 1-2 ปี โดยมีอาการปวดท้องน้อยหรือปวดหลังก่อนเป็นรอบเดือนหรือระหว่างเป็นรอบเดือน ส่วนใหญ่อาการปวดจะเริ่มหายไปหลังจากคลอดลูกคนแรกหรือเมื่อเริ่มมีอายุมากขึ้น

2.การปวดประจำเดือนชนิดทุติยภูมิ

            อาการปวดประเภทนี้เกิดจากการมีปัญหาสุขภาพ เช่น เยื่อบุโพรงมดลูกผิดปกติ การมีพังผืดในช่องท้อง หรือการมีเนื้องอกบริเวณมดลูกโดยเฉพาะในโพรงมดลูก จะมีอาการปวดเมื่อเริ่มมีรอบเดือนและปวดนานกว่าการปวดรอบเดือนทั่วไป

การดูแลตนเองเมื่อปวดประจำเดือน

            การดูแลเบื้องต้นหรือการรับมือกับอาการปวดประจำเดือน เป็นสิ่งจำเพราะเป็นเพื่อช่วยลดอาการปวดหรือความทรมานระหว่างมีประจำเดือน เช่น

            1.ออกกำลังกายในขณะเป็นรอบเดือนอย่างเหมาะสม เพื่อให้เกิดความผ่อนคลาย

            2.ประคบน้ำอุ่นบริเวณท้องน้อยหรืออุ้งเชิงกราน

            3.ดื่มน้ำอุ่นๆแทนการดื่มน้ำเย็น

            4.ทานยาพาราเซทามอล

อาการประจำเดือนที่ควรพบแพทย์

            ลักษณะอาการปวดประจำเดือน โดยทั่วไปจะเป็นแล้วหายได้ภายใน 2-3 วัน ขณะมีอาการปวดหากดูแลตัวเองตามวิธีที่กล่าวมาแล้ว แต่อาการยังไม่ดีขึ้นหรือมีอาการปวดหลายวัน ควรไปพบสูตินรีแพทย์เพื่อค้นหาสาเหตุและขอคำปรึกษาในการดูแลตนเอง

วิธีป้องกันตนเองจากอาการปวดประจำเดือน

            การมีรอบเดือนเป็นเรื่องปกติหรือเป็นเรื่องธรรมชาติของผู้หญิงทุกคน วิธีป้องกันตนเองสิ่งแรกก็คือการดูแลสุขภาพให้แข็งแรง ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ นอนหลับพักผ่อนอย่างเพียงพอ รับประทานอาหารประเภทธัญพืช ถั่ว ผักใบเขียวและผลไม้มากๆ และทำจิตใจให้ร่าเริงไม่เครียด

            ทราบวิธีรับมือกับอาการปวดประจำเดือนแล้ว อย่าลืมดูแลสุขภาพให้แข็งแรงและหลีกเลี่ยงปัญหาที่ทำให้เรารู้สึกเครียดเพราะความเครียดเป็นปัญหาต่อสุขภาพในหลายๆด้าน รวมไปถึงเรื่องของความสวยความงามอีกด้วยค่ะ

3 เคล็ดลับชะลอริ้วรอยแห่งวัย

3 เคล็ดลับชะลอริ้วรอยก่อนวัยอย่างได้ผล
=============================
 การดูแลสุขภาพและความงาม เป็นเรื่องที่ผู้หญิงทุกคนให้ความสำคัญอยู่แล้ว แต่การป้องกันย่อมดีกว่ากันบำรุงรักษา สำหรับสาววัยทำงานที่อายุอยู่ในช่วงวัย 30 ตอนปลายอาจกังวลกับปัญหาริ้วรอยที่ริ่มมาเยือน  วันนี้เรามี 3 เคล็ดลับชะลอริ้วรอยก่อนวัยอย่างได้ผลมาแนะนำค่ะ
===
3 เคล็ดลับชะลอริ้วรอยก่อนวัยอย่างได้ผล

1.อย่าปล่อยให้อารมณ์บูดบึ้งบ่อยๆ
 คนที่ปล่อยให้ตัวเองอารมณ์เสีย หรืออารมณ์เกรี้ยวกราดขี้หงุดหงิดง่าย เป็นศรัตรูตัวร้ายอาจทำให้เกิดริ้วรอย ผิวหน้าเหี่ยวย่น ไม่สดชื่น และทำให้ดูแก่ก่อนวัยได้ง่ายๆ สาวๆที่ไม่อยากแก่ก่อนวัยต้องควบคุมอารมณ์ไม่เครียดง่าย หากิจกรรมที่ช่วยให้รู้สึกเพลิดเพลินและทำงานด้วยความสนุกสนาน ก็จะทำให้เราสดชื่นแจ่มใสและไม่เกิดริ้วรอยที่ไม่พึงประสงค์
...

2.นอนดึกไม่เป็นผลดีต่อสุขภาพผิว
 สาวๆทุกคนทราบดีอยู่แล้วว่าการนอนหลับพักผ่อนอย่างเพียงพอ หรือนอนหลับอย่างน้อยวันละ 6-8 ชั่วโมงจะช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันแข็งแรง สมองปลอดโปร่งอารมณ์แจ่มใสและยังส่งผลดีต่อสุขภาพผิว เพราะเป็นการดูแลผิวพรรณจากภายในสู่ภายนอก แต่สาวๆมีระเบียบวินัยในตัวเองเข้านอนได้เร็วไม่เกิน 3-4 ทุ่มเป็นประจำ ก็จะส่งผลดีต่อสุขภาพผิวได้มากกว่า การนอนดึกๆแล้วตื่นสาย
...

3.ออกกำลังให้เหมาะสมกับตนเอง
 การออกกำลังกาย ทำได้หลายวิธี หลายๆคนอาจมีเวลาน้อยหรือไม่มีช่วงเวลาการออกกำลังกายที่เหมาะสม เช่น ช่วงเช้าหรือหลังเลิกงาน ความจริงการดูแลสุขภาพและความงามด้วยการออกกำลังกายทำได้ตลอดเวลา แต่ต้องทำเป็นประจำอย่างน้อยสัปดาห์ละ ครั้งและเลือกวิธีออกกำลังกายที่เหมาะสม เช่น สาวออฟฟิศ เลือกเดินขึ้นลงบันไดแทนการขึ้นลิฟท์ ออกกำลังกายด้วยท่ากายบริหาร การเล่นโยคะ หรือซื้อเครื่องออกกำลังในร่มไว้ภายในบ้าน
...
 เคล็ดลับชะลอริ้วรอยก่อนวัยทั้ง 3 วิธีทำได้ง่ายๆและเห็นผลลัพธ์เร็วขึ้น หากทำควบคู่ไปกับการเลือกทานอาหารที่มีประโยชน์เน้นการทานผักผลไม่หลากหลายชนิดสลับหมุนเวียนกันไปพร้อมๆกับการป้องกันผิวด้วยการทาครีมกันแดดเป็นประจำ บำรุงด้วยผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่มีส่วนผสมจากสารสกัดธรรมชาติ เพียงเท่านี้ก็ทำให้ห่างไกลจากริ้วรอยได้แล้วค่ะ

ดร.ป้อ

#เคล็ดลับชะลอริ้วรอย
#ริ้วรอยก่อนวัย
#ริ้วรอย

อาการตกขาว อันตรายที่ผู้หญิงต้องรู้ทัน

อาการตกขาว อันตรายที่ผู้หญิงต้องรู้ทัน
============================
 ปัญหาสุขภาพของผู้หญิง นอกจากอาการปวดท้องประจำเดือนแล้ว อาการตกขาวก็เป็นปัญหาสุขภาพที่จำเป็นต้องรู้ทัน เพราะอาจเป็นสาเหตุของโรคภัยที่เป็นอันตรายได้ โดยเฉพาะผู้หญิงวัยทองซึ่งเป็นวัยที่ฮอล์โมนกำลังมีความเปลี่ยนแปลง และนอกจากนั้นอาการของตกขาว ยังเป็นปัญหาต่อบุคลิกภาพทำให้ผู้หญิงขาดความมั่นใจในตัวเอง เพราะมักจะทำให้เกิดกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์
===
รู้ทัน อาการตกขาว

 อาการตกขาว  คือ ภาวะที่มีสารคัดหลั่งสีขาวออกมาจากช่องคลอด มีสีขาวคล้ายแป้งเปียก แบ่งออกเป็น 2 ชนิด ได้แก่
...
1.อาการตกขาวปกติ หรือที่พบได้ทั่วไป
 เป็นอาการตกขาวปกติทั่วไปจะมีลักษณะคล้ายแป้งเปียกสีขาว พบได้ในช่วงกำลังตั้งครรภ์ และในช่วงก่อนหรือหลังเป็นประจำเดือน
...
2.อาการตกขาวผิดปกติ
หมายถึง อาการตกขาวที่มีปริมาณมาก และมีกลิ่นลักษณะเป็นสีน้ำตาลหรือสีเหลืองอาจเป็นหนอง มูกปนหนอง ปนเลือด มีฟอง และมักมีอาการอื่นร่วมด้วย เช่น มีอาการ คัน แสบ หรือปวดท้องน้อย
===
สาเหตุของอาการตกขาวและความผิดปกติ

 อาการตกขาวเป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นได้ และเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ เช่น อาจเกิดจากเซลล์เยื่อบุผนังช่องคลอดที่หลุดลอกออกมา ส่วนสาเหตุที่ทำให้อาการตกขาวผิดปกติ ได้แก่มีสิ่งแปลกปลอมอยู่ในช่องคลอด และเป็นสาเหตุทำให้ปากมดลูกเป็นแผล เช่น เศษทิชชู เศษสำลีจากผ้าอนามัย  เกิดการติดเชื้อแบคทีเรีย หรือเชื้อรา
===
อาการตกขาวมีวิธีป้องกันรักษา

 สำหรับวิธีป้องกันอาการตกขาว ถึงแม้จะเป็นอาการที่เกิดขึ้นได้ ถือเป็นเรื่องปกติ  แต่สาเหตุบางอย่างที่ทำให้เป็นตกขาวก็อาจทำให้เป็นอันตรายต่อสุขภาพในอนาคตได้ การป้องกันทำได้ ดังนี้
.
 1.หลีกเลี่ยงกันสวมใส่ชุดที่รัดรูป หรือสวมใส่กางเกงที่รัดรูปมากเกินไป
.
 2.หลีกเลี่ยงการใช้ยาดับกลิ่น หรือการใช้น้ำยาอนามัย
.
 3.ป้องกันอย่าปล่อยให้บริเวณช่องคลอดอับชื้น
.
 4.รักษาความสะอาดและป้องกันการอับชื้น
.
 5.รักษาโดยการใช้ยาเหน็บสำหรับอาการตกขาวโดยเฉพาะ
.
 6.ทานนมเปรี้ยว ทานโยเกิร์ตหรือการทานยาคูลท์ เพื่อเพิ่มจุลินทรีย์ชนิดดีเข้าไปทำลายแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดกลิ่น
...
 สำหรับอาการตกขาว เป็นปัญหาสุขภาพของผู้หญิงที่เกิดขึ้นได้ทุกคน การเลือกแนวทางรักษาอาจพบแพทย์เพื่อวินิจฉัยหรือขอคำแนะนำในการรักษาก่อนได้ สิ่งสำคัญอย่าอายหมอเพราะการมีสุขภาพดีต้องเริ่มต้นจากตัวเราค่ะ
======
ดร.ป้อ

#อาการตกขาว
#วิธีป้องกันรักษา
#สาเหตุของอาการตกขาว

5 วิธีเลือกซื้อ ครีมบำรุง เพื่อผิวสวย อย่างปลอดภัย

5 วิธีเลือกซื้อครีมบำรุง เพื่อผิวสวย อย่างปลอดภัย
==================================
 การมีผิวที่สวยขาวใสอย่างเป็นธรรมชาติ ไม่ใช่เรื่องยุ่งยากของสาวๆในยุคนี้ เพราะมีผลิตภัณฑ์บำรุงผิว ทำให้ผิวสวยใสหลากหลายแบรนด์ออกมาให้เลือกซื้อเลือกใช้ รวมไปถึงอาหารเสริมเพื่อผิวสวย ที่ช่วยให้คุณสาวๆทุกรุ่นทุกวัยสวยใสจากภายในสู่ภายนอก แต่จะเลือกซื้อครีมบำรุงอย่างไรให้ผิวสวยอย่างปลอดภัย บทความนี้มีคำตอบค่ะ
===
วิธีเลือกซื้อครีมบำรุง เพื่อผิวสวย อย่างปลอดภัย

1.ตรวจสอบสภาพผิวของตนเองแล้วแล้วเลือกซื้อครีมบำรุงให้เหมาะกับสภาพผิวในช่วงนั้น เพราะสภาพผิวของคนเราอาจขปรับเปลี่ยนไปได้ตามสภาพอากาศและสภาพแวดล้อม เช่น คนที่ผิวหน้ามันหากทำงานอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ หรือทำงานอยู่ในห้องแอร์นานๆก็อาจกลายเป็นผิวแห้งได้ วิธีนี้ช่วยให้บำรุงดูแลผิวได้อย่างถูกต้องเห็นผล
...

2.เลือกซื้อครีมบำรุงหรือผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่เป็นขนาด
ทดลองหรือครีมชนิดซองมาทดลองใช้ก่อน ข้อดีก็คือ ประหยัดเงินหากใช้แล้วเกิดอาการแพ้หรือมีผลข้างเคียงก็สามารถเลิกใช้ ได้โดยไม่เสียดายเงิน
...

3.ก่อนเลือกซื้อควรศึกษารายละเอียดของครีมบำรุงหรือเครื่องสำอางจากฉลากผลิตภัณฑ์ ว่ามีสูตรผสม วิธีการใช้ วันเดือนปีที่ผลิต และรายละเอียดเกี่ยวกับบริษัทผู้ผลิตไว้อย่างชัดเจน และไม่ควรเลือกดูเฉพาะเลขที่ อย. เพียงอย่างเดียว แต่ควรพิจารณาหลายๆด้านประกอบกัน
...

4.เลือกซื้อครีมบำรุงที่ตอบโจทย์ความต้องการของตัวเราเอง เลือกจากคุณสมบัติของครีมที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพผิวของเราอย่างแท้จริง ไม่ควรเลือกซื้อเพราะคำโฆษณาชวนเชื้อ หรือเลือกซื้อเพราะเป็นครีมที่มีดาราคานางแบบเป็นตัวแทนจำหน่าย
...
5.ควรเลือกใช้ครีมบำรุงผิวหรือเครื่องสำอางที่มีส่วนประกอบเป็นสารสกัดจากพืชสมุนไพรธรรมชาติ โดยเฉพาะพืชสมุนไพรที่มีขั้นตอนการผลิตเป็นออร์แกนิคร้อยเปอร์เซ็นต์

 การเลือกซื้อครีมบำรุงหรือเครื่องสำอางที่ปลอดภัยต่อ

สุขภาพผิว นอกจากเลือกซื้อตาม 5 วิธีที่แนะนำแล้ว การเลือกซื้อครีมและเครื่องสำอางจากร้านสะดวกซื้อและเคาร์เตอร์เครื่องสำอางของแบรนด์โดยเฉพาะก็ทำให้เราได้ผลิตภัณฑ์คุณภาพป้องกันปัญหาสินค้าลอกเลียนแบบที่ใช้แล้วอาจกลายเป็นปัญหาผิวพรรณที่ยากต่อการดูแลรักษา
===
ดร.ป้อ

#วิธีเลือกซื้อครีมบำรุง
#ครีมบำรุง
#ผิวสวย
#เครื่องสำอาง

สูตรการดูแลผิวหน้าด้วยขมิ้นชัน

ขมิ้นชัน กับการดูแลผิวหน้า
===================
 ขมิ้นชันเป็นพืชสมุนไพรที่มีเหง้าหรือหัวสีเหลืองเข้มอยู่ใต้ดิน นิยมใช้เป็นเครื่องเทศเพราะมีรสเผ็ดร้อนและใช้ปรุงแต่งสีของอาหารให้น่าทานยิ่งขึ้น นอกจากนั้นขมิ้นชันยังมีสรรพคุณในการดูแลผิวหน้า ช่วยรักษาสิว มีส่วนช่วยทำให้ผิวขาวใส เปล่งประกายอย่างมีออร่า
===
ขมิ้นชัน กับการดูแลผิวหน้า

 เหง้าของขมิ้นชันมีรสฝาด กลิ่นหอม มีฤทธิ์ในการฆ่าเชื้อแบคทีเรีย เชื้อรา และลดการอักเสบ สรรพคุณของขมิ้นชันกับการดูแลผิวหน้า คือมีสารต่อต้านอนุมูลอิสระซึ่งช่วยในการชะลอวัยและชะลอการเกิดริ้วรอย  สำหรับสูตรดูแลผิวจากขมิ้นชันที่เราสามารถทำได้ง่ายๆด้วยตัวเองมีขั้นตอนดังนี้
===
 สูตรบำรุงผิวด้วยขมิ้นสด

ส่วนผสม
 1.ขมิ้นสดปอกเปลือกแล้วหั่นเป็นชิ้นเล็กๆปริมาณ 1 กำมือ
 2.ดินสอพอง 4 เม็ด
 3.มะนาว 1 ลูกคั้นเอาแต่น้ำ
 4.น้ำผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะ
===
วิธีทำ
 1.นำขมิ้นสดที่เตรียมไว้ใส่ในโถปั่น เติมน้ำผึ้ง และน้ำมะนาวปั่นจนละเอียดเป็นเนื้อเดียวกัน จากนั้นใส่ดินสอพองลงไปปั่นอีกครั้งหากเนื้อครีมเหนียวหรือหนืดเกินไปให้ใส่น้ำสุกเล็กน้อย
...
 2.ล้างหน้าด้วยน้ำเปล่า ซับหน้าให้แห้งพอหมาดๆ จากนั้นนำครีมขมิ้นที่ได้มาพอกให้ทั่วใบหน้า เว้นบริเวณขอบปากและรอบดวงตา ทิ้งไว้ประมาณ 15 นาที
...
 3.แล้วล้างออกด้วยน้ำอุ่น ทำเพียงสัปดาห์ละ 2 ครั้งผิวจะเนียนนุ่ม เปล่งปลั่งอย่างมีออร่า
..
 สูตรบำรุงผิวด้วยขมิ้นสด ใช้ดูแลผิวได้ทั้งผิวหน้าและผิวกาย แ สำหรับคนที่มีปัญหาริ้วรอยหรือเป็นสิวยังช่วยลดปัญหาการเกิดสิวหรือริ้วรอยให้จางลงได้

ดร.ป้อ

#ขมิ้นชัน
#การดูแลผิวหน้า
#บริษัทรับผลิต
#เครื่องสำอาง

ปวดท้องประจำเดือน รับมืออย่างไรดี

ปวดท้องประจำเดือน รับมืออย่างไรดี

           

 “ปวดท้องประจำเดือน” ปัญหาใหญ่ของผู้หญิงหลายๆคน เพราะนอกจากเรื่องของสิว ฝ้า และการเกิดริ้วรอยหมองคล้ำที่ทำให้ดูแก่ก่อนวัย จะเป็นปัญหาทำให้ผู้หญิงรู้สึกวิตกกังวลใจ แล้ว อาการปวดท้องประจำเดือน ก็คือความทุกข์ทรมานทางร่างกาย วันนี้เราจะมาหาสาเหตุและเรียนรู้วิธีรับมือกับอาการปวดท้องประจำเดือน กันค่ะ

อาการและสาเหตุการปวดประจำเดือน

            การปวดบริเวณท้องน้อยในช่วงก่อนหรือกำลังมีรอบเดือน จะมีลักษณะอาการปวดตุบๆหรือปวดบีบๆ ซึ่งอาการปวดท้องประจำเดือนจะมีความรุนแรงแตกต่างกัน ผู้หญิงบางคนมีอาการปวดรุนแรง และรู้สึกทรมานจนไม่สามารถทำงานได้  โดยอาการปวดจะเกิดขึ้น 2-3 วันแล้วหายได้เอง อาการปวดประจำเดือนแบ่งออกเป็น 2 ประเภท ได้แก่

1.การปวดประจำเดือนชนิดปฐมภูมิ

            เป็นอาการปวดประจำเดือน เมื่อเริ่มเป็นรอบเดือนครั้งแรกได้ประมาณ 1-2 ปี โดยมีอาการปวดท้องน้อยหรือปวดหลังก่อนเป็นรอบเดือนหรือระหว่างเป็นรอบเดือน ส่วนใหญ่อาการปวดจะเริ่มหายไปหลังจากคลอดลูกคนแรกหรือเมื่อเริ่มมีอายุมากขึ้น

2.การปวดประจำเดือนชนิดทุติยภูมิ

            อาการปวดประเภทนี้เกิดจากการมีปัญหาสุขภาพ เช่น เยื่อบุโพรงมดลูกผิดปกติ การมีพังผืดในช่องท้อง หรือการมีเนื้องอกบริเวณมดลูกโดยเฉพาะในโพรงมดลูก จะมีอาการปวดเมื่อเริ่มมีรอบเดือนและปวดนานกว่าการปวดรอบเดือนทั่วไป

การดูแลตนเองเมื่อปวดประจำเดือน

            การดูแลเบื้องต้นหรือการรับมือกับอาการปวดประจำเดือน เป็นสิ่งจำเพราะเป็นเพื่อช่วยลดอาการปวดหรือความทรมานระหว่างมีประจำเดือน เช่น

            1.ออกกำลังกายในขณะเป็นรอบเดือนอย่างเหมาะสม เพื่อให้เกิดความผ่อนคลาย

            2.ประคบน้ำอุ่นบริเวณท้องน้อยหรืออุ้งเชิงกราน

            3.ดื่มน้ำอุ่นๆแทนการดื่มน้ำเย็น

            4.ทานยาพาราเซทามอล

อาการประจำเดือนที่ควรพบแพทย์

           

            ลักษณะอาการปวดประจำเดือน โดยทั่วไปจะเป็นแล้วหายได้ภายใน 2-3 วัน ขณะมีอาการปวดหากดูแลตัวเองตามวิธีที่กล่าวมาแล้ว แต่อาการยังไม่ดีขึ้นหรือมีอาการปวดหลายวัน ควรไปพบสูตินรีแพทย์เพื่อค้นหาสาเหตุและขอคำปรึกษาในการดูแลตนเอง

วิธีป้องกันตนเองจากอาการปวดประจำเดือน

            การมีรอบเดือนเป็นเรื่องปกติหรือเป็นเรื่องธรรมชาติของผู้หญิงทุกคน วิธีป้องกันตนเองสิ่งแรกก็คือการดูแลสุขภาพให้แข็งแรง ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ นอนหลับพักผ่อนอย่างเพียงพอ รับประทานอาหารประเภทธัญพืช ถั่ว ผักใบเขียวและผลไม้มากๆ และทำจิตใจให้ร่าเริงไม่เครียด

            ทราบวิธีรับมือกับอาการปวดประจำเดือนแล้ว อย่าลืมดูแลสุขภาพให้แข็งแรงและหลีกเลี่ยงปัญหาที่ทำให้เรารู้สึกเครียดเพราะความเครียดเป็นปัญหาต่อสุขภาพในหลายๆด้าน รวมไปถึงเรื่องของความสวยความงมอีกด้วยค่ะ